การพิมพ์ 3 มิติ ถูกกำหนดให้เป็นกระบวนการผลิตแบบเพิ่มเติมสำหรับการสร้างวัตถุของแข็งสามมิติ โดยการเพิ่มชั้นของวัสดุในลักษณะการเขียนวัตถุทีละชั้น อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อจุดประสงค์นี้เรียกว่าเป็น 3D Printer หรือเครื่องพิมพ์ 3 มิติ โดยตลาดวัสดุการพิมพ์ 3 มิติมีมูลค่า 578 ล้านดอลลาร์ ถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์และคาดว่าจะสูงถึง 1,871 – 4,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 – 2024 โดย CAGR (Compound Annual Growth Rate) อยู่ที่ 18.3% – 25% เป็นอัตราการเติบโตของพอร์ตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น นั่นก็คือ เปอร์เซ็นต์กำไรต่อปีของพอร์ตที่เรากำลังสนใจของ 3D Printer Materials Market Worth to Future ในช่วงห้าปีต่อไปจากนี้มีการวิจัยและการสำรวจตลาดของวัสดุ 3D Print ยังมีการคาดการณ์ว่าการพิมพ์โลหะ 3 มิติจะเติบโตอย่างรวดเร็ว และทำรายได้ให้อย่างมากมายในอนาคต
ไฟล์ดิจิทัลที่มีข้อมูลสำหรับการกำหนดค่าของวัตถุที่ต้องการและวัสดุที่ใช้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผลิตภัณฑ์ของผลลัพธ์และเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ใช้ค่าหรือการรายงานผลนี้เพื่อแสดงการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมของวัสดุที่จะใช้ระหว่างการพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งเรียกว่าเป็นวัสดุการพิมพ์ 3 มิติ วัสดุเหล่านี้ใช้ใน 3 ลักษณะ ได้แก่ แบบผง เส้นใย และของเหลว ซึ่งมีรูปแบบของชิ้นงานเป็นงานขนาดเล็กจนไปถึงขนาดใหญ่
การเติบโตของ 3D Print Metal ที่น่าจับตามอง
การเติบโตในส่วนของวัสดุนั้นเกี่ยวข้องกับการขยายตัวทั่วโลกของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ทุกประเภทตั้งแต่ผู้ใช้เองไปจนถึงอุตสาหกรรมและการผลิตเครื่องจักร ตอนนี้สามารถซื้อเครื่องพิมพ์ 3 มิติแบบ FDM (fused deposition modeling) และ SLA (stereolithography) ได้ในราคาต่ำกว่า 500 ดอลลาร์ได้แล้ว
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาพอลิเมอร์เกรดอุตสาหกรรมชนิดใหม่ที่ได้รับการพัฒนาและรับรองสำหรับแอพพลิเคชั่นด้านการแพทย์และสุขภาพ การบินและยานยนต์ ซึ่งสามารถใช้ได้กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติหลายยี่ห้อ ภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุด คือ เอเชียแปซิฟิก เติบโตเร็วกว่าตลาดอื่น และปัจจุบันเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของวัสดุการพิมพ์ 3 มิติ แต่ยังคงหลังสหรัฐอเมริกาและยุโรป
(https://www.marketsandmarkets.com)
ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกอาศัยอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดังนั้นเมื่อพวกเขาปรับใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาเศรษฐกิจของตนเอง จะทำให้ปริมาณความต้องการของวัสดุการพิมพ์ 3 มิติ เพิ่มมากขึ้นตามด้วย จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่นเกาหลีใต้ และอินเดีย ได้ริเริ่มการลงทุนไปแล้วในการพิมพ์ 3 มิติและคาดว่าจะผลักดันการเติบโตในภูมิภาคนี้ให้สูงสุด (3D Printer Materials Market Worth to Future)
(https://www.futuremarketinsights.com)
