3D Printer Filament จะมีสมบัติทางกลของวัสดุเส้นพลาสติกที่สามารถจับต้อง มองเห็น และพิสูจน์ได้ง่าย การทดลองบางอย่างมี Maker หลายๆท่านทำเครื่องวัดขึ้นมาเองได้ไม่ยาก ถึงแม้อาจจะคลาดเคลื่อนจากมาตรฐานไปบ้าง แต่ก็เปรียบเทียบกันภายในได้ดี (in-house method) ในขณะที่มาตรฐานการทดสอบส่วนใหญ่จะมีทั้ง ASTM DIN JIS ต่างๆมากมาย จากระบบ FDM 3D Printer
คุณสมบัติเชิงกลของวัสดุ เช่น ความทนต่อแรงดึง (Tensile Strength) ความแข็งแรงทางแรงกด (Compressive Strength) ฯลฯ เป็นสิ่งที่จะบอกว่าวัสดุนั้นๆ สามารถที่จะรับหรือทนทานแรงหรือพลังงานเชิงกลภายนอกที่มากระทำได้ดีมากน้อยเพียงใด
คุณสมบัติที่หลากหลายสำหรับวัสดุแต่ละชนิด เพื่อใช้เปรียบเทียบในการเลือกวัสดุกับอีกวัสดุหนึ่งได้อย่างง่ายดาย การเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์นั้นมีความสำคัญมาก จะต้องเลือกใช้วัสดุแบบใดให้ตรงกับลักษณะการใช้งานนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำไปใช้งานด้านใด หรือมีจุดมุ่งหมายอย่างไรมากกว่านั่นเอง
1. ความทนทานต่อแรงดึง
2. ความทนทานต่อแรงอัด
3. ความสามารถทนต่อแรงกระแทก
4. การทนต่ออุณหภูมิ
การทดสอบอุณหภูมิในการอ่อนตัวของพลาสติก คือ heat distortion (deflection)
temperature (HDT) และ Vicat softening point (VICAT) ซึ่งเป็นการทดสอบผลกระทบของอุณหภูมิต่อสมบัติของพลาสติกในระยะสั้นๆ (short tem effects) และอาจจะใช้ในการบ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะของวัสดุ อย่างเช่น
PETG (Polyethylene terephthalate Glycol) เหนียวมาก โปร่งใส ราคาแพง ใช้ทำแผ่นฟิล์มบาง ๆ บรรจุอาหาร
ABS (acrylonitrile-butadiene-styrene) มีสมบัติทนต่อกรดและด่าง ไอน้ำและอากาศซึมผ่านได้พอควร ทนสารเคมีได้ดี มีความเหนียว โปร่งแสง ใช้ผลิตถ้วย ถาด เป็นต้น
Nylon เป็นพลาสติกที่มีความเหนียวมาก คงทนต่อการเพิ่มอุณหภูมิ ทำแผ่นแลมิเนตสำหรับทำถุงพลาสติกบรรจุอาหารแบบสุญญากาศ
5. การทนต่อสภาพอากาศ
วัสดุที่เป็นพลาสติกที่ทนต่อสภาวะแวดล้อม สามารถทนต่อสภาวะบรรยากาศได้ดี นั้นต้องอาศัยปัจจัยอื่นร่วมด้วย อย่างเช่น ทนสารเคมี ทนความร้อน แข็งแกร่ง รวมทั้งสารเคมีดี มีความเหนียว เป็นต้น เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไปสมบัติด้านอื่นๆ ของวัสดุจะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาและอุณหภูมิด้วยเช่นกัน
ดังนั้น FDM 3D Printer ใช้พลาสติกแต่ละชนิดประเภท มีหลากหลายของคุณสมบัติ และแตกต่างกัน สามารถนำไปใช้งานตามวัตถุประสงค์และความเหมาะสม การพิจารณาเลือกใช้พลาสติกเป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งนี้ควรเลือกพิจารณาจากคุณสมบัติของพลาสติกแต่ละประเภทให้ตรงกับผลิตภัณฑ์